บทความ

ทีมงานที่ดี

ทีมงานคือกลุ่มคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่ทำงานด้วยกัน ทีมงานมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการทำงาน การทำงานเป็นทีมจะทำให้คนได้รับการช่วยเหลือด้านแรงกาย ได้รับคำแนะนำ และได้รับการหนุนใจ ทำให้งานได้รับความสำเร็จและคนที่ทำได้รับความสุขความยินดีในการทำงานไปพร้อมกัน พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงทีมงานที่เป็นครอบครัวของมนุษย์คู่แรกในโลกนี้ไว้ว่า “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” (ปฐมกาล 2:24) พระเจ้าทรงสร้างคู่อุปถัมภ์ที่เป็นผู้หญิงให้สมกับผู้ชายขึ้นมา ให้ผู้หญิงและผู้ชายเป็นเนื้อเดียวกัน เขาจะได้อยู่ด้วยกันและช่วยเหลือกันตลอดไป นี่คือความผูกพันของการเป็นสามีภรรยาและความผูกพันของการเป็นเพื่อนร่วมกันที่จะต้องอยู่ด้วยกันเพื่อช่วยเหลือกันด้วย การเป็นเนื้อเดียวกันหมายถึงเข้ากันได้อย่างสนิท สิ่งนี้มีความสำคัญต่อการทำงานเป็นทีมมาก ถ้าคนที่ทำงานด้วยกันเข้ากันไม่ได้ เขาก็ไม่อาจสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ และถ้าคนที่ทำงานด้วยกันไม่สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ เขาก็ไม่อาจทำงานที่ยากให้บรรลุผลสำเร็จ คนที่จะเข้ากันได้นั้นจำเป็นต้องมีพื้นแพบางอย่างเหมือนกัน การที่จะทำให้ทีมงานมีบางอย่างที่เหมือนกันได้นั้น เราจำเป็นต้องเน้นไปที่การสร้างมากกว่าการหา การสร้างค่านิยมหรืออุดมการณ์ของคนงานให้เหมือนกันจึงเป็นภารกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องเอาใจใส่ ถ้าคนงานในทีมมีค่านิยมหรืออุดมการณ์ที่เหมือนกันแล้วเขาจะช่วยเหลือกันเองโดยที่ผู้นำหรือผู้บริหารไม่จำเป็นต้องไปควบคุม การสร้างค่านิยมหรืออุดมการณ์ให้คนงานมีเหมือนกันจึงสำคัญมากกว่าการบังคับบัญชาคนงานเสียอีก

การสร้างผู้ช่วย

การมีผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้นำหรือผู้บริหารแล้วเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้งานเจริญก้าวหน้าต่อไป จึงจำเป็นต้องมีการหาคนอื่นที่จะมาเป็นผู้ช่วยเพิ่มเติม งานที่ทำจึงจะเจริญก้าวหน้าได้ พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงการสร้างผู้ช่วยไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น’ … ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกมาจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น” (ปฐมกาล 2:18, 22) จากพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างคู่อุปถัมภ์ให้ชายคนแรกที่ได้รับมอบอำนาจจากพระองค์ คนที่เป็นคู่อุปถัมภ์นั้นเป็นภรรยาของเขาและได้รับการสร้างจากกระดูกของเขา ผู้ช่วยจำเป็นต้องมีพื้นแพเดียวกันกับผู้ที่เขาจะช่วย เขาทั้งสองจึงจะสามารถทำงานด้วยกันได้ ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์คือคู่ชีวิต และคู่ชีวิตที่ดีที่สุดคือคนที่มีพื้นแพเดียวกัน ผู้ปฏิบัติงานระดับล่างไม่ใช่ผู้นำที่จะกำหนดแผนและนโยบาย เขาไม่มีอำนาจหรือความสามารถที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวของเขาเองทั้งหมด เขาจึงไม่อาจหาคนที่จะมาช่วยงานที่เขาทำได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารที่จะหาคนมาช่วยงานของเขา เพื่อแบ่งเบาภาระของเขา ผู้ช่วยที่ดีต้องเข้ากับคนที่ได้รับมอบอำนาจก่อนหน้านั้นได้ ดังนั้นผู้ช่วยที่ดีจึงไม่อาจเกิดได้ด้วยการหาคนจากที่อื่นเพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดได้ด้วยการสร้าง การสร้างผู้ช่วยจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องทำ จะมอบหมายให้คนอื่นทำแทนตนไม่ได้ ผู้บริหารที่เอาใจใส่ในการสร้างผู้ช่วยใหม่ที่จะมาช่วยคนงานที่มีอยู่แล้ว จะมีทีมงานที่เข้มแข็งได้ในที่สุด การมีผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้นำหรือผู้บริหารแล้วเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้งานเจริญก้าวหน้าต่อไป จึงจำเป็นต้องมีการหาคนอื่นที่จะมาเป็นผู้ช่วยเพิ่มเติม งานที่ทำจึงจะเจริญก้าวหน้าได้ พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงการสร้างผู้ช่วยไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น’ … ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกมาจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น” (ปฐมกาล 2:18, 22) จากพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างคู่อุปถัมภ์ให้ชายคนแรกที่ได้รับมอบอำนาจจากพระองค์ คนที่เป็นคู่อุปถัมภ์นั้นเป็นภรรยาของเขาและได้รับการสร้างจากกระดูกของเขา ผู้ช่วยจำเป็นต้องมีพื้นแพเดียวกันกับผู้ที่เขาจะช่วย เขาทั้งสองจึงจะสามารถทำงานด้วยกันได้ ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์คือคู่ชีวิต…

สื่อสารสู่ความหวานชื่นของชีวิตคู่4

โกรธกันได้ไหม ความโกรธปิดกั้นการสื่อสารได้อ่างไร ความโกรธคืออะไร ทำไมคนเราจึงมีอารมณ์โกรธ พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่าไร ปฏิกิริยาทั่วไปกับความโกรธ คุณจะตอบสนองความโกรธอย่างไร และเปลี่ยนท่าทีจากความโกรธนั้นได้อย่างไร คู่สมรสต้องการสื่อสารกัน  โดยเฉพาะในเวลาโกรธยิ่งต้องการเป็นพิเศษ   แต่มันมักเป็นชนวนสำคัญที่บ่อนทำลายการสื่อสารในชีวิตสมรส ความโกรธในด้านบวกและลบ ส่วนใหญ่เราอาจมองความโกรธในแง่ลบ  แต่แท้จริงมันก็มีด้านดีซ่อนอยู่เช่นกัน  เช่นเวลามีอะไรมาขัดขวางเป้าหมายที่เรากำลังมุ่งหน้าไป  ความอัดอั้นตันใจจะทำให้เราโกรธ  อารมณ์โกรธกระตุ้นให้เราทำสิ่งซึงปกติแล้วทำไม่ได้  เพื่อความอยู่รอดของเราเอง เหมือนดั่งเช่นสุนัขจนตรอก “จงให้ความยุติธรรมหลั่งลงมาอย่างน้ำ   และให้ความชอบธรรมเป็นอย่างอย่างลำธารที่ไหลอยู่เป็นนิตย์ ”  พระธรรม อาโมส 5.24  ส่วนมากพวกเราหวังเห็นความยุติธรรมและความชอบธรรมในสังคม  แต่เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นเราก็โกรธ โมโห  ซึ่งเป็นสิ่งดี  เมื่อคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือผจญกับความทุกข์ยากนั้น  จะกระตุ้นให้เราเข้าไปแก้ไข แต่ความโกรธไม่ได้น่าชื่นชมอย่างนี้เสมอไป  หลายครั้งเราโกรธเพราะห่วงตังเอง เห็นแก่ตัว  อยากตามใจตนเอง  เมื่อคู่สมรสไม่เห็นดีด้วยก็โกรธ “กลับบ้านต่างจังหวัดปีใหม่นี้ผมจองตั๋วรถไฟนะ” “คุณก็รู้ว่ารถไฟที่นั่งปรับเอนนอนไม่ได้  ฉันชอบรถทัวร์” “รถทัวร์น่าเบื่อ  เดินไปดินมาไม่ได้  รำคาญจะตาย” “คุณจะเดินหรือนั่งรถเพื่อให้ถึงบ้านคุณ”   ความขัดแย้งเพิ่มพูนขึ้นเนื่องจากรู้สึกขุ่นเคืองที่ไม่ได้ดั่งใจตน  เป้าหมายอยากได้หรือทำตามใจชอบ  เมื่อไม่สมใจก็โกรธ  ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคู่สมรสตึงเครียดขึ้น พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่างไร   อฟ. 4.31 “จงให้ใจขมขื่น  และใจขัดเคืองและใจโกรธ  และการทะเลาะเถียงกัน …

กฎระเบียบ

กฎคือข้อบังคับเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ระเบียบคือแบบแผนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย กฎระเบียบจึงเป็นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต การงาน และทรัพย์สิน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย กฎระเบียบมีความสำคัญต่อชีวิต การงาน และความสัมพันธ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรก็ตามจะต้องมีกฎระเบียบไม่มากก็น้อย ชีวิต การงาน และความสัมพันธ์จึงจะราบรื่น พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงกฎระเบียบที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์ว่า “พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า ‘บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลไม้ของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่’” (ปฐมกาล 2:16-17) กฎระเบียบจะกล่าวถึงสิ่งที่ทำได้ว่าควรทำหรือต้องทำ และสิ่งที่ทำไม่ได้ ว่าไม่ควรทำหรือห้ามทำ สิ่งที่อนุญาตให้ทำได้จะเป็นสิ่งที่ดีหรือมีประโยชน์จึงควรทำ สิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือมีโทษจึงไม่ควรทำ กฎระเบียบบางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานให้พ้นจากอันตรายที่อาจได้รับจากการทำงานหรือการดำเนินชีวิต บางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินหรือการงานที่ทำไม่ได้เกิดความเสียหาย และบางอย่างมีไว้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติงานระดับล่างให้ราบรื่น หน่วยงานทุกแห่งจึงต้องมีกฎระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม การตั้งกฎระเบียบและการชี้แจงกฎระเบียบเป็นหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารที่ต้องทำ งานหรือตำแหน่งหน้าที่ใหม่จำเป็นต้องออกมาพร้อมกับกฎระเบียบที่ชัดเจน และคนงานใหม่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงให้เข้าใจกฎระเบียบอย่างชัดเจน จึงจะป้องกันปัญหาได้

การให้อาหาร

อาหารให้พลังงานแก่ร่างกาย อาหารทำให้คนมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยเหตุนี้อาหารจึงมีความสำคัญต่อชีวิต มีอาหารรับประทานก็สามารถมีชีวิตและทำงานได้ ไม่มีอาหารรับประทานก็ไม่อาจมีชีวิตและไม่อาจทำงานได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ด้วยอาหารที่รับประทานเข้าไปทั้งนั้น พระคัมภีร์ไบเบิลได้เขียนไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ดูเถิด เราให้พืชที่มีเมล็ดทั้งหมดซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า’” (ปฐมกาล 1:29) อาหารที่พระเจ้าทรงประทานให้มนุษย์รับประทานคือพืชที่มีเมล็ด เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่ว และงา เมล็ดพืชมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน เมล็ดพืชจึงเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของมนุษย์ อาหารมีความจำเป็นต่อชีวิต ทุกคนจึงต้องรับประทานอาหาร แต่ปัญหามากมายในชีวิตของมนุษย์ก็มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร เช่นไม่มีอาหารรับประทาน รับประทานอาหารน้อยเกินไป รับประทานอาหารมากเกินไป และรับประทานอาหารผิดประเภท การรับประทานบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นการรับประทานผิดประเภทและเป็นการรับประทานที่มากเกินไป การรับประทานอาหารผิดประเภทเป็นการรับประทานบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไป เช่น ขนม หรือยาเสพติด สิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ถ้าเรารับประทานเข้าไปจะมีผลเสียต่อสุขภาพ และเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นจนเป็นภาระ ถ้าผู้นำหรือผู้บริหารดูแลอาหารการกินของผู้ปฏิบัติงานให้เพียงพอ และผู้ปฏิบัติงานหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต ผู้ปฏิบัติงานก็จะมีสุขภาพแข็งแรงที่จะทำงานและไม่มีปัญหาที่มาจากภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

การอวยพร

พรคือสิ่งที่ดีหรือประเสริฐ สิ่งที่ดีคือสิ่งที่ทำให้คนมีความสุขความยินดี ดังนั้นพรจึงเป็นสิ่งที่ใครก็ปรารถนาหรืออยากได้ ด้วยเหตุนี้การอวยพรจึงมีความสำคัญต่อการบริหารงานและบริหารคน ความสำเร็จหรือผลลัพธ์เป็นสิ่งที่ผู้นำหรือองค์กรจะได้รับจากผู้ปฏิบัติงาน อำนาจคือสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับจากผู้นำหรือผู้บังคับบัญชาเพื่อทำให้งานสำเร็จ ส่วนพรเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับจากผู้นำหรือผู้บังคับบัญชาเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของผู้ปฏิบัติงานเอง พรจึงเป็นรางวัลหรือผลตอบแทนพิเศษที่ผู้นำหรือผู้บังคับบัญชามอบให้ผู้ปฏิบัติงาน พระคัมภีร์ไบเบิลได้บรรยายถึงการที่พระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ไว้ว่า “พระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า ‘จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน’” (ปฐมกาล 1:28) จากพระคัมภีร์ข้อนี้ พรที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์มีสองอย่างด้วยกันคือ การมีลูกดกทวีมากขึ้นและการมีอำนาจปกครองเหนือแผ่นดินโลก คำที่เป็นกุญแจไขข้อความนี้คือ “ลูก” “ดกทวี” “อำนาจ” และ “เหนือ” ลูกและอำนาจเป็นคำนาม ดกทวีและเหนือเป็นคำวิเศษที่ทำหน้าที่อธิบายคำนามที่เป็นพระพรทั้งสองอย่าง ลูกเป็นองค์ประกอบของครอบครัว การมีลูกดกทวีมากขึ้นเป็นพรให้ครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานเจริญเติบโต อำนาจเป็นองค์ประกอบของงาน การมีอำนาจเหนือแผ่นดินเป็นพรให้งานที่ทำมีความเจริญก้าวหน้า ถ้าผู้นำหรือผู้บริหารที่เป็นผู้บังคับบัญชาให้พรหรือรางวัลที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและการงานของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานทุกคนย่อมมีชีวิตที่ดีและการงานย่อมจะเจริญก้าวหน้าได้แน่นอน

การมอบอำนาจ

บุคลากรที่เป็นผู้ตามไม่ได้เป็นผู้กำหนดนโยบาย เขาจึงไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง ผู้นำจึงมีหน้าที่มอบหมายงานให้เขาทำ การมอบหมายงานจึงเป็นภารกิจหนึ่งของการบริหารที่มีความสำคัญมาก ความล้มเหลวในการทำงานนั้นบางครั้งเกิดจากความผิดพลาดในการชี้แจงงาน เช่นอธิบายลักษณะของงานไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่รู้ว่างานที่เขาต้องทำนั้นมีอะไรบ้าง การมอบหมายงานที่ดีจึงได้แก่การอธิบายลักษณะของงานให้ชัดเจนว่า คนที่จะทำหน้าที่ปฏิบัติงานนั้นมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง พระคัมภีร์ไบเบิลได้บันทึกถึงลักษณะที่พระเจ้าทรงมอบหมายงานให้มนุษย์ทำไว้ว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไปและสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:26) พระคัมภีร์ข้อนี้ได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าทรงมอบหมายให้มนุษย์ปกครองดูแลสัตว์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและแผ่นดินที่เป็นสิ่งไม่มีชีวิต นี่คือคำอธิบายลักษณะงานของมนุษย์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล การอธิบายลักษณะของงานเป็นการสื่อสารให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ว่าขอบเขตความรับผิดชอบของเขามีอะไรบ้าง คำอธิบายต้องมีความชัดเจนผู้ปฏิบัติงานจึงจะรู้ได้ว่า หน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบมีอะไรบ้าง การอธิบายลักษณะงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเป็นทักษะการเป็นผู้นำแบบชี้นำ ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นมากโดยเฉพาะกับคนงานใหม่ และนโยบายใหม่  เพราะถ้าไม่อธิบายหรืออธิบายได้ไม่ชัดเจน ผู้ปฏิบัติงานก็ไม่อาจทำตามได้ บางครั้งการชี้แจงครั้งเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องชี้แจงซ้ำหลายๆ ครั้งผู้ปฏิบัติงานจึงจะสามารถทำตามได้

การชี้แจงงาน

บุคลากรที่เป็นผู้ตามไม่ได้เป็นผู้กำหนดนโยบาย เขาจึงไม่รู้ว่าเขาจะต้องทำอะไรบ้าง ผู้นำจึงมีหน้าที่มอบหมายงานให้เขาทำ การมอบหมายงานจึงเป็นภารกิจหนึ่งของการบริหารที่มีความสำคัญมาก ความล้มเหลวในการทำงานนั้นบางครั้งเกิดจากความผิดพลาดในการชี้แจงงาน เช่นอธิบายลักษณะของงานไม่ชัดเจน ทำให้ผู้ปฏิบัติงานไม่รู้ว่างานที่เขาต้องทำนั้นมีอะไรบ้าง การมอบหมายงานที่ดีจึงได้แก่การอธิบายลักษณะของงานให้ชัดเจนว่า คนที่จะทำหน้าที่ปฏิบัติงานนั้นมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง พระคัมภีร์ไบเบิลได้บันทึกถึงลักษณะที่พระเจ้าทรงมอบหมายงานให้มนุษย์ทำไว้ว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไปและสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:26) พระคัมภีร์ข้อนี้ได้กล่าวไว้ว่าพระเจ้าทรงมอบหมายให้มนุษย์ปกครองดูแลสัตว์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและแผ่นดินที่เป็นสิ่งไม่มีชีวิต นี่คือคำอธิบายลักษณะงานของมนุษย์ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล การอธิบายลักษณะของงานเป็นการสื่อสารให้ผู้ปฏิบัติงานรู้ว่าขอบเขตความรับผิดชอบของเขามีอะไรบ้าง คำอธิบายต้องมีความชัดเจนผู้ปฏิบัติงานจึงจะรู้ได้ว่า หน้าที่ที่เขาต้องรับผิดชอบมีอะไรบ้าง การอธิบายลักษณะงานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเป็นทักษะการเป็นผู้นำแบบชี้นำ ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นมากโดยเฉพาะกับคนงานใหม่ และนโยบายใหม่  เพราะถ้าไม่อธิบายหรืออธิบายได้ไม่ชัดเจน ผู้ปฏิบัติงานก็ไม่อาจทำตามได้ บางครั้งการชี้แจงครั้งเดียวยังไม่เพียงพอ ต้องชี้แจงซ้ำหลายๆ ครั้งผู้ปฏิบัติงานจึงจะสามารถทำตามได้

คนสร้างบุคลากร

บุคลากรทำหน้าที่ควบคุมดูแลงานและวัตถุสิ่งของ บุคลากรจึงต้องมีคุณภาพมากกว่าวัตถุสิ่งของเหล่านั้น ถ้าบุคลากรมีคุณภาพต่ำกว่างานหรือวัตถุสิ่งของก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถทำให้ผลงานที่ออกมามีคุณภาพได้ ผู้นำที่ต้องการประสบความสำเร็จในระดับสูงจำเป็นต้องเอาใจใส่การสร้างคนงานหรือการผลิตบุคลากร ถ้าละเลยการสร้างบุคลากรก็ไม่อาจคาดหวังความเจริญก้าวหน้าในระยะยาวได้ พระคัมภีร์ไบเบิลเขียนไว้ว่า พระเจ้าตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไปและสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:26) พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ด้วยพระองค์เอง มนุษย์จึงถูกสร้างให้มีฉายาหรือลักษณะเหมือนพระองค์เพื่อตอบสนองพระประสงค์ของพระองค์ ถ้าพระเจ้าทรงปล่อยให้ผู้อื่นสร้าง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้มนุษย์ที่มีลักษณะเหมือนพระองค์และสามารถสนองพระประสงค์ของพระองค์ได้ การสร้างบุคลากรเป็นหน้าที่ของผู้นำที่เป็นผู้บริหาร เพราะมีแต่ผู้นำที่ทำหน้าที่บริหารเท่านั้นจึงจะรู้ได้แน่นอนว่าตนหรือองค์กรมีแผนการอะไร และบุคลากรแบบใดที่สามารถจะช่วยทำให้แผนการนั้นประสบความสำเร็จได้ ถ้าผู้บริหารเน้นการสร้างวัตถุหรืองานโดยละเลยการสร้างคน งานก็จะไปถึงทางตันเพราะขาดบุคลากรที่จะช่วยสานงานให้ก้าวหน้า บุคลากรที่มีความคิดหรืออุดมการณ์เหมือนกับผู้นำหรือองค์กรนั้นไม่อาจเกิดได้ผ่านการสร้างของบุคคลอื่น การสร้าบุคลากรเพื่อเป็นทีมงานที่เข้มแข็งจึงเป็นหนึ่งในภารกิจที่มีความสำคัญ จะละเลยไม่ได้ และจะมอบหมายหน้าที่นี้ให้คนอื่นทำแทนตนทั้งหมดไม่ได้

ลักษณะของบุคลากรที่ดี

บุคลากรต้องมีเป้าหมาย ความคิด ค่านิยม หรืออุดมการณ์เหมือนกับผู้นำ เขาจึงจะสนับสนุนภารกิจของผู้นำได้ ถ้าเขามีอุดมการณ์ที่แตกต่างออกไป เขาก็จะทำงานเพื่อสร้างอุดมการณ์ของเขา จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทำให้เป้าหมายของผู้นำสำเร็จ บุคลากรที่เป็นผู้ตามจึงต้องมีลักษณะเหมือนกับผู้นำ แม้จะมีสถาบันการศึกษาทำหน้าที่ผลิตบุคลากรเพื่อป้อนให้แก่องค์กรธุรกิจต่างๆ แต่บุคลากรเหล่านั้นก็ไม่เป็นที่พอใจของผู้นำองค์กรธุรกิจทุกแห่ง เพราะมีลักษณะบางอย่างที่เขาไม่ต้องการ และขาดคุณลักษณะสำคัญบางอย่างที่เขาต้องการไป พระคัมภีร์ไบเบิลเขียนไว้ว่า เมื่อพระเจ้าทรงสร้างสิ่งต่างๆ เสร็จแล้วพระองค์ตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศและฝูงสัตว์ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไปและสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดิน” (ปฐมกาล 1:26) พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ให้มีลักษณะเหมือนพระองค์เพื่อให้มนุษย์มีอำนาจครอบครองโลกแทนพระองค์ ถ้ามนุษย์มีลักษณะแตกต่างออกไป เขาก็ไม่อาจที่จะสนองแผนการของพระเจ้าได้ บุคลากรจำเป็นต้องมีลักษณะสำคัญเหมือนผู้นำ โดยเฉพาะเป้าหมายหรืออุดมการณ์ เขาจึงจะสามารถช่วยผลักดันให้ภารกิจของผู้นำประสบความสำเร็จได้ การสร้างบุคลากรจึงต้องสร้างให้เหมือนกับผู้นำ ปัญหาและความล้มเหลวในการทำงานมากมายไม่ได้เกิดจากผู้ตามหรือบุคลากรขาดความสามารถ แต่เกิดจากผู้ตามหรือบุคลากรมีความคิดหรือเป้าหมายแตกต่างออกไปเท่านั้น การสร้างบุคลากรให้มีอุดมการณ์ร่วมกันจึงเป็นเคล็ดของความสำเร็จในการบริหารงานและบริหารคน