พลังใจครอบครัว ตอนที่ 15
การสื่อสารกันในชีวิตคู่ ตอนที่ 1
ทีมงานคือกลุ่มคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปที่ทำงานด้วยกัน ทีมงานมีความสำคัญต่อความสำเร็จในการทำงาน การทำงานเป็นทีมจะทำให้คนได้รับการช่วยเหลือด้านแรงกาย ได้รับคำแนะนำ และได้รับการหนุนใจ ทำให้งานได้รับความสำเร็จและคนที่ทำได้รับความสุขความยินดีในการทำงานไปพร้อมกัน พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงทีมงานที่เป็นครอบครัวของมนุษย์คู่แรกในโลกนี้ไว้ว่า “เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน” (ปฐมกาล 2:24) พระเจ้าทรงสร้างคู่อุปถัมภ์ที่เป็นผู้หญิงให้สมกับผู้ชายขึ้นมา ให้ผู้หญิงและผู้ชายเป็นเนื้อเดียวกัน เขาจะได้อยู่ด้วยกันและช่วยเหลือกันตลอดไป นี่คือความผูกพันของการเป็นสามีภรรยาและความผูกพันของการเป็นเพื่อนร่วมกันที่จะต้องอยู่ด้วยกันเพื่อช่วยเหลือกันด้วย การเป็นเนื้อเดียวกันหมายถึงเข้ากันได้อย่างสนิท สิ่งนี้มีความสำคัญต่อการทำงานเป็นทีมมาก ถ้าคนที่ทำงานด้วยกันเข้ากันไม่ได้ เขาก็ไม่อาจสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ และถ้าคนที่ทำงานด้วยกันไม่สามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ เขาก็ไม่อาจทำงานที่ยากให้บรรลุผลสำเร็จ คนที่จะเข้ากันได้นั้นจำเป็นต้องมีพื้นแพบางอย่างเหมือนกัน การที่จะทำให้ทีมงานมีบางอย่างที่เหมือนกันได้นั้น เราจำเป็นต้องเน้นไปที่การสร้างมากกว่าการหา การสร้างค่านิยมหรืออุดมการณ์ของคนงานให้เหมือนกันจึงเป็นภารกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องเอาใจใส่ ถ้าคนงานในทีมมีค่านิยมหรืออุดมการณ์ที่เหมือนกันแล้วเขาจะช่วยเหลือกันเองโดยที่ผู้นำหรือผู้บริหารไม่จำเป็นต้องไปควบคุม การสร้างค่านิยมหรืออุดมการณ์ให้คนงานมีเหมือนกันจึงสำคัญมากกว่าการบังคับบัญชาคนงานเสียอีก
การมีผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้นำหรือผู้บริหารแล้วเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้งานเจริญก้าวหน้าต่อไป จึงจำเป็นต้องมีการหาคนอื่นที่จะมาเป็นผู้ช่วยเพิ่มเติม งานที่ทำจึงจะเจริญก้าวหน้าได้ พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงการสร้างผู้ช่วยไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น’ … ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกมาจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น” (ปฐมกาล 2:18, 22) จากพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างคู่อุปถัมภ์ให้ชายคนแรกที่ได้รับมอบอำนาจจากพระองค์ คนที่เป็นคู่อุปถัมภ์นั้นเป็นภรรยาของเขาและได้รับการสร้างจากกระดูกของเขา ผู้ช่วยจำเป็นต้องมีพื้นแพเดียวกันกับผู้ที่เขาจะช่วย เขาทั้งสองจึงจะสามารถทำงานด้วยกันได้ ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์คือคู่ชีวิต และคู่ชีวิตที่ดีที่สุดคือคนที่มีพื้นแพเดียวกัน ผู้ปฏิบัติงานระดับล่างไม่ใช่ผู้นำที่จะกำหนดแผนและนโยบาย เขาไม่มีอำนาจหรือความสามารถที่จะทำอะไรได้ด้วยตัวของเขาเองทั้งหมด เขาจึงไม่อาจหาคนที่จะมาช่วยงานที่เขาทำได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารที่จะหาคนมาช่วยงานของเขา เพื่อแบ่งเบาภาระของเขา ผู้ช่วยที่ดีต้องเข้ากับคนที่ได้รับมอบอำนาจก่อนหน้านั้นได้ ดังนั้นผู้ช่วยที่ดีจึงไม่อาจเกิดได้ด้วยการหาคนจากที่อื่นเพียงอย่างเดียว แต่จะเกิดได้ด้วยการสร้าง การสร้างผู้ช่วยจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ผู้นำหรือผู้บริหารต้องทำ จะมอบหมายให้คนอื่นทำแทนตนไม่ได้ ผู้บริหารที่เอาใจใส่ในการสร้างผู้ช่วยใหม่ที่จะมาช่วยคนงานที่มีอยู่แล้ว จะมีทีมงานที่เข้มแข็งได้ในที่สุด การมีผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้นำหรือผู้บริหารแล้วเท่านั้นยังไม่พอ เพื่อให้งานเจริญก้าวหน้าต่อไป จึงจำเป็นต้องมีการหาคนอื่นที่จะมาเป็นผู้ช่วยเพิ่มเติม งานที่ทำจึงจะเจริญก้าวหน้าได้ พระคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงการสร้างผู้ช่วยไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ไม่ควรที่ชายผู้นี้จะอยู่คนเดียว เราจะสร้างคู่อุปถัมภ์ที่สมกับเขาขึ้น’ … ส่วนกระดูกซี่โครงที่พระเจ้าได้ทรงชักออกมาจากชายนั้น พระองค์ทรงสร้างให้เป็นหญิง แล้วทรงนำมาให้ชายนั้น” (ปฐมกาล 2:18, 22) จากพระคัมภีร์ตอนนี้ พระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างคู่อุปถัมภ์ให้ชายคนแรกที่ได้รับมอบอำนาจจากพระองค์ คนที่เป็นคู่อุปถัมภ์นั้นเป็นภรรยาของเขาและได้รับการสร้างจากกระดูกของเขา ผู้ช่วยจำเป็นต้องมีพื้นแพเดียวกันกับผู้ที่เขาจะช่วย เขาทั้งสองจึงจะสามารถทำงานด้วยกันได้ ผู้ช่วยที่ดีที่สุดในชีวิตของมนุษย์คือคู่ชีวิต…
โกรธกันได้ไหม ความโกรธปิดกั้นการสื่อสารได้อ่างไร ความโกรธคืออะไร ทำไมคนเราจึงมีอารมณ์โกรธ พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่าไร ปฏิกิริยาทั่วไปกับความโกรธ คุณจะตอบสนองความโกรธอย่างไร และเปลี่ยนท่าทีจากความโกรธนั้นได้อย่างไร คู่สมรสต้องการสื่อสารกัน โดยเฉพาะในเวลาโกรธยิ่งต้องการเป็นพิเศษ แต่มันมักเป็นชนวนสำคัญที่บ่อนทำลายการสื่อสารในชีวิตสมรส ความโกรธในด้านบวกและลบ ส่วนใหญ่เราอาจมองความโกรธในแง่ลบ แต่แท้จริงมันก็มีด้านดีซ่อนอยู่เช่นกัน เช่นเวลามีอะไรมาขัดขวางเป้าหมายที่เรากำลังมุ่งหน้าไป ความอัดอั้นตันใจจะทำให้เราโกรธ อารมณ์โกรธกระตุ้นให้เราทำสิ่งซึงปกติแล้วทำไม่ได้ เพื่อความอยู่รอดของเราเอง เหมือนดั่งเช่นสุนัขจนตรอก “จงให้ความยุติธรรมหลั่งลงมาอย่างน้ำ และให้ความชอบธรรมเป็นอย่างอย่างลำธารที่ไหลอยู่เป็นนิตย์ ” พระธรรม อาโมส 5.24 ส่วนมากพวกเราหวังเห็นความยุติธรรมและความชอบธรรมในสังคม แต่เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นเราก็โกรธ โมโห ซึ่งเป็นสิ่งดี เมื่อคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือผจญกับความทุกข์ยากนั้น จะกระตุ้นให้เราเข้าไปแก้ไข แต่ความโกรธไม่ได้น่าชื่นชมอย่างนี้เสมอไป หลายครั้งเราโกรธเพราะห่วงตังเอง เห็นแก่ตัว อยากตามใจตนเอง เมื่อคู่สมรสไม่เห็นดีด้วยก็โกรธ “กลับบ้านต่างจังหวัดปีใหม่นี้ผมจองตั๋วรถไฟนะ” “คุณก็รู้ว่ารถไฟที่นั่งปรับเอนนอนไม่ได้ ฉันชอบรถทัวร์” “รถทัวร์น่าเบื่อ เดินไปดินมาไม่ได้ รำคาญจะตาย” “คุณจะเดินหรือนั่งรถเพื่อให้ถึงบ้านคุณ” ความขัดแย้งเพิ่มพูนขึ้นเนื่องจากรู้สึกขุ่นเคืองที่ไม่ได้ดั่งใจตน เป้าหมายอยากได้หรือทำตามใจชอบ เมื่อไม่สมใจก็โกรธ ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคู่สมรสตึงเครียดขึ้น พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่างไร อฟ. 4.31 “จงให้ใจขมขื่น และใจขัดเคืองและใจโกรธ และการทะเลาะเถียงกัน …
กฎคือข้อบังคับเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ระเบียบคือแบบแผนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย กฎระเบียบจึงเป็นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต การงาน และทรัพย์สิน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย กฎระเบียบมีความสำคัญต่อชีวิต การงาน และความสัมพันธ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรก็ตามจะต้องมีกฎระเบียบไม่มากก็น้อย ชีวิต การงาน และความสัมพันธ์จึงจะราบรื่น พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงกฎระเบียบที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์ว่า “พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า ‘บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลไม้ของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่’” (ปฐมกาล 2:16-17) กฎระเบียบจะกล่าวถึงสิ่งที่ทำได้ว่าควรทำหรือต้องทำ และสิ่งที่ทำไม่ได้ ว่าไม่ควรทำหรือห้ามทำ สิ่งที่อนุญาตให้ทำได้จะเป็นสิ่งที่ดีหรือมีประโยชน์จึงควรทำ สิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือมีโทษจึงไม่ควรทำ กฎระเบียบบางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานให้พ้นจากอันตรายที่อาจได้รับจากการทำงานหรือการดำเนินชีวิต บางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินหรือการงานที่ทำไม่ได้เกิดความเสียหาย และบางอย่างมีไว้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติงานระดับล่างให้ราบรื่น หน่วยงานทุกแห่งจึงต้องมีกฎระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม การตั้งกฎระเบียบและการชี้แจงกฎระเบียบเป็นหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารที่ต้องทำ งานหรือตำแหน่งหน้าที่ใหม่จำเป็นต้องออกมาพร้อมกับกฎระเบียบที่ชัดเจน และคนงานใหม่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงให้เข้าใจกฎระเบียบอย่างชัดเจน จึงจะป้องกันปัญหาได้
อาหารให้พลังงานแก่ร่างกาย อาหารทำให้คนมีชีวิตอยู่ได้ ด้วยเหตุนี้อาหารจึงมีความสำคัญต่อชีวิต มีอาหารรับประทานก็สามารถมีชีวิตและทำงานได้ ไม่มีอาหารรับประทานก็ไม่อาจมีชีวิตและไม่อาจทำงานได้ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิดล้วนมีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ด้วยอาหารที่รับประทานเข้าไปทั้งนั้น พระคัมภีร์ไบเบิลได้เขียนไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘ดูเถิด เราให้พืชที่มีเมล็ดทั้งหมดซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า’” (ปฐมกาล 1:29) อาหารที่พระเจ้าทรงประทานให้มนุษย์รับประทานคือพืชที่มีเมล็ด เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่ว และงา เมล็ดพืชมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายครบถ้วน เมล็ดพืชจึงเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของมนุษย์ อาหารมีความจำเป็นต่อชีวิต ทุกคนจึงต้องรับประทานอาหาร แต่ปัญหามากมายในชีวิตของมนุษย์ก็มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร เช่นไม่มีอาหารรับประทาน รับประทานอาหารน้อยเกินไป รับประทานอาหารมากเกินไป และรับประทานอาหารผิดประเภท การรับประทานบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นการรับประทานผิดประเภทและเป็นการรับประทานที่มากเกินไป การรับประทานอาหารผิดประเภทเป็นการรับประทานบางอย่างที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายเข้าไป เช่น ขนม หรือยาเสพติด สิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ถ้าเรารับประทานเข้าไปจะมีผลเสียต่อสุขภาพ และเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายให้มากขึ้นจนเป็นภาระ ถ้าผู้นำหรือผู้บริหารดูแลอาหารการกินของผู้ปฏิบัติงานให้เพียงพอ และผู้ปฏิบัติงานหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต ผู้ปฏิบัติงานก็จะมีสุขภาพแข็งแรงที่จะทำงานและไม่มีปัญหาที่มาจากภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
พรคือสิ่งที่ดีหรือประเสริฐ สิ่งที่ดีคือสิ่งที่ทำให้คนมีความสุขความยินดี ดังนั้นพรจึงเป็นสิ่งที่ใครก็ปรารถนาหรืออยากได้ ด้วยเหตุนี้การอวยพรจึงมีความสำคัญต่อการบริหารงานและบริหารคน ความสำเร็จหรือผลลัพธ์เป็นสิ่งที่ผู้นำหรือองค์กรจะได้รับจากผู้ปฏิบัติงาน อำนาจคือสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับจากผู้นำหรือผู้บังคับบัญชาเพื่อทำให้งานสำเร็จ ส่วนพรเป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับจากผู้นำหรือผู้บังคับบัญชาเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของผู้ปฏิบัติงานเอง พรจึงเป็นรางวัลหรือผลตอบแทนพิเศษที่ผู้นำหรือผู้บังคับบัญชามอบให้ผู้ปฏิบัติงาน พระคัมภีร์ไบเบิลได้บรรยายถึงการที่พระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ไว้ว่า “พระเจ้าทรงอวยพรแก่มนุษย์ ตรัสแก่เขาว่า ‘จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในอากาศ กับบรรดาสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดิน’” (ปฐมกาล 1:28) จากพระคัมภีร์ข้อนี้ พรที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์มีสองอย่างด้วยกันคือ การมีลูกดกทวีมากขึ้นและการมีอำนาจปกครองเหนือแผ่นดินโลก คำที่เป็นกุญแจไขข้อความนี้คือ “ลูก” “ดกทวี” “อำนาจ” และ “เหนือ” ลูกและอำนาจเป็นคำนาม ดกทวีและเหนือเป็นคำวิเศษที่ทำหน้าที่อธิบายคำนามที่เป็นพระพรทั้งสองอย่าง ลูกเป็นองค์ประกอบของครอบครัว การมีลูกดกทวีมากขึ้นเป็นพรให้ครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานเจริญเติบโต อำนาจเป็นองค์ประกอบของงาน การมีอำนาจเหนือแผ่นดินเป็นพรให้งานที่ทำมีความเจริญก้าวหน้า ถ้าผู้นำหรือผู้บริหารที่เป็นผู้บังคับบัญชาให้พรหรือรางวัลที่เป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและการงานของผู้ปฏิบัติงาน ผู้ปฏิบัติงานทุกคนย่อมมีชีวิตที่ดีและการงานย่อมจะเจริญก้าวหน้าได้แน่นอน