สื่อสารสู่ความหวานชื่นของชีวิตคู่4

โกรธกันได้ไหม ความโกรธปิดกั้นการสื่อสารได้อ่างไร ความโกรธคืออะไร ทำไมคนเราจึงมีอารมณ์โกรธ พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่าไร ปฏิกิริยาทั่วไปกับความโกรธ คุณจะตอบสนองความโกรธอย่างไร และเปลี่ยนท่าทีจากความโกรธนั้นได้อย่างไร คู่สมรสต้องการสื่อสารกัน  โดยเฉพาะในเวลาโกรธยิ่งต้องการเป็นพิเศษ   แต่มันมักเป็นชนวนสำคัญที่บ่อนทำลายการสื่อสารในชีวิตสมรส ความโกรธในด้านบวกและลบ ส่วนใหญ่เราอาจมองความโกรธในแง่ลบ  แต่แท้จริงมันก็มีด้านดีซ่อนอยู่เช่นกัน  เช่นเวลามีอะไรมาขัดขวางเป้าหมายที่เรากำลังมุ่งหน้าไป  ความอัดอั้นตันใจจะทำให้เราโกรธ  อารมณ์โกรธกระตุ้นให้เราทำสิ่งซึงปกติแล้วทำไม่ได้  เพื่อความอยู่รอดของเราเอง เหมือนดั่งเช่นสุนัขจนตรอก “จงให้ความยุติธรรมหลั่งลงมาอย่างน้ำ   และให้ความชอบธรรมเป็นอย่างอย่างลำธารที่ไหลอยู่เป็นนิตย์ ”  พระธรรม อาโมส 5.24  ส่วนมากพวกเราหวังเห็นความยุติธรรมและความชอบธรรมในสังคม  แต่เมื่อไม่เป็นไปตามนั้นเราก็โกรธ โมโห  ซึ่งเป็นสิ่งดี  เมื่อคนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือผจญกับความทุกข์ยากนั้น  จะกระตุ้นให้เราเข้าไปแก้ไข แต่ความโกรธไม่ได้น่าชื่นชมอย่างนี้เสมอไป  หลายครั้งเราโกรธเพราะห่วงตังเอง เห็นแก่ตัว  อยากตามใจตนเอง  เมื่อคู่สมรสไม่เห็นดีด้วยก็โกรธ “กลับบ้านต่างจังหวัดปีใหม่นี้ผมจองตั๋วรถไฟนะ” “คุณก็รู้ว่ารถไฟที่นั่งปรับเอนนอนไม่ได้  ฉันชอบรถทัวร์” “รถทัวร์น่าเบื่อ  เดินไปดินมาไม่ได้  รำคาญจะตาย” “คุณจะเดินหรือนั่งรถเพื่อให้ถึงบ้านคุณ”   ความขัดแย้งเพิ่มพูนขึ้นเนื่องจากรู้สึกขุ่นเคืองที่ไม่ได้ดั่งใจตน  เป้าหมายอยากได้หรือทำตามใจชอบ  เมื่อไม่สมใจก็โกรธ  ส่งผลให้ความสัมพันธ์กับคู่สมรสตึงเครียดขึ้น พระคัมภีร์พูดถึงความโกรธไว้อย่างไร   อฟ. 4.31 “จงให้ใจขมขื่น  และใจขัดเคืองและใจโกรธ  และการทะเลาะเถียงกัน …

กฎระเบียบ

กฎคือข้อบังคับเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ระเบียบคือแบบแผนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย กฎระเบียบจึงเป็นกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้คนทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อชีวิต การงาน และทรัพย์สิน เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย กฎระเบียบมีความสำคัญต่อชีวิต การงาน และความสัมพันธ์ของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรก็ตามจะต้องมีกฎระเบียบไม่มากก็น้อย ชีวิต การงาน และความสัมพันธ์จึงจะราบรื่น พระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงกฎระเบียบที่พระเจ้าทรงให้แก่มนุษย์ว่า “พระเจ้าจึงทรงบัญชาแก่มนุษย์นั้นว่า ‘บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดีและความชั่ว ผลไม้ของต้นไม้นั้นอย่ากิน เพราะในวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่’” (ปฐมกาล 2:16-17) กฎระเบียบจะกล่าวถึงสิ่งที่ทำได้ว่าควรทำหรือต้องทำ และสิ่งที่ทำไม่ได้ ว่าไม่ควรทำหรือห้ามทำ สิ่งที่อนุญาตให้ทำได้จะเป็นสิ่งที่ดีหรือมีประโยชน์จึงควรทำ สิ่งที่ไม่อนุญาตให้ทำจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีหรือมีโทษจึงไม่ควรทำ กฎระเบียบบางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันผู้ปฏิบัติงานให้พ้นจากอันตรายที่อาจได้รับจากการทำงานหรือการดำเนินชีวิต บางอย่างมีไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินหรือการงานที่ทำไม่ได้เกิดความเสียหาย และบางอย่างมีไว้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติงานระดับล่างให้ราบรื่น หน่วยงานทุกแห่งจึงต้องมีกฎระเบียบให้ทุกคนปฏิบัติตาม การตั้งกฎระเบียบและการชี้แจงกฎระเบียบเป็นหน้าที่ของผู้นำหรือผู้บริหารที่ต้องทำ งานหรือตำแหน่งหน้าที่ใหม่จำเป็นต้องออกมาพร้อมกับกฎระเบียบที่ชัดเจน และคนงานใหม่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงให้เข้าใจกฎระเบียบอย่างชัดเจน จึงจะป้องกันปัญหาได้